by Unknown author
เคล็ดลับดูแลผิว Riviera Suisse

เคล็ดลับดูแลผิว ในช่วงหน้าหนาว ป้องกันผิวแตก

เมื่อหน้าหนาวใกล้เข้ามา หลายๆ คนก็มักจะพบเจอปัญหาผิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแตก ผิวแห้ง หน้าแห้งลอกเป็นขุย ซึ่งถ้าผิวแห้งแบบอาการไม่หนักก็อาจจะมีแค่อาการคันเบาๆ แต่ถ้าแห้งมากก็อาจจะแสบคัน จนทำให้เราเกามันมากๆ และอาจะจะกลายเป็นแผลได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอาการผิวแห้ง หรืออาการผิวขาดน้ำ ความบอบบางแพ้ง่ายนั้นก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของผิวหน้าเราด้วย ดังนั้น เคล็ดลับดูแลผิว อย่างนึงเลยคือการรูจักชนิดผิวของตนเอง เคล็ดลับดูแลผิว ตาม 5 ชนิดของผิวหน้า ผิวของคุณจัดอยู่ในประเภทไหน? หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเรามีผิวหน้าประเภทไหน มีวิธีการสังเกตอย่างไร และผิวนั้นมีกี่ประเภทกันแน่? โดยทั่วไปผิวหน้าของคนเราแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ  ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวผสม โดยพันธุกรรมจากคุณพ่อคุณแม่เรานั้น จะเป็นตัวกำหนดว่าเรามีผิวประเภทใด แต่ว่าปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ก็ส่งผลต่อสภาพผิวของเราด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อม ลักษณะการรับประทานอาหาร หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา การดูแลผิวธรรมดา ผิวหน้าธรรมดาถือว่าเป็นผิวหน้าที่มีความสมดุลมากที่สุด ผิวบริเวณ T-zone (หน้าผาก จมูก และคาง) มีความมันเล็กน้อยและไม่แห้งจนเกินไป ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม หรือที่เรียกว่าผิวสุขภาพดีนั่นเอง โดยลักษณะของผิวธรรมดาจะเป็นดังนี้: ผิวไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป มีรูขุมขนขนาดเล็ก มีการไหลเวียนโลหิตที่ดี ทำให้ผิวมีความสดชื่น สีอมชมพู ไม่หมองคล้ำ ผิวเรียบเนียน อ่อนนุ่ม ไม่มีสิว ไร้ริ้วรอย การดูแลผิวธรรมดา นั้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นประจำ เพื่อรักษาสภาพของผิวให้คงอยู่ได้นานขึ้น ทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน (RS foam) และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกกลางแจ้ง (RS Face Balm SPF30) การดูแลผิวมัน ผิวหน้ามัน เป็นผิวที่มีการผลิตน้ำมันในปริมาณมากเกินไป สามารถมองเห็นรูขุมขนได้อย่างชัดเจน เพราะว่ารูขุมขนใหญ่ ทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิว เวลาใช้กระดาษซับมัน จะเห็นน้ำมันบนกระดาษได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะจากบริเวณ จมูก หน้าผาก และ โหนกแก้ม โดยลักษณะของผิวมัน จะเป็นดังนี้: ผิวเงา มันวาว รูขุมขนกว้าง หน้ามันเยิ้มได้ง่าย น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป บางครั้ง มีสิวหัวดำ หรือ สิวเสี้ยน ผิวค่อนข้างหนา และไม่สามารถมองเห็นเส้นเลือดได้อย่างชัดเจน การดูแลผิวมัน นั้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นประเภทเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย เช่น โลชั่น หรือ เซรั่ม เป็นต้น เพราะโดยปกติแล้ว ผิวมันจะสามารถผลิตสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Sebum) ได้ดีอยู่แล้ว ส่วนการทำความสะอาดผิวมัน ควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2- 3 ครั้ง เพื่อช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสาเหตุแห่งการเกิดสิว…

Read More
by Unknown author
10 อาหารบำรุงผิว ช่วยให้ผิวกลับมาสดใส เปร่งปรั่ง

10 อาหารบำรุงผิว ที่สาวๆ ไม่ควรพลาด ด้วยการสวยจากภายใน

ถึงแม้จะ work from home อยู่บ้านกันในช่วงนี้ แต่ว่าเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมออกไปเฉิดฉายข้างนอกอยู่เสมอ มีหลายคนที่ใช้ครีมตั้งหลายตัว แต่ว่าก็ยังมีปัญหาผิวมากวนใจ ซึ่งก็เป็นเพราะว่าสุขภาพผิวของเรานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งภายในและภายนอก เช่น เราโดนแดดมากแค่ไหน เราออกกำลังกายมากแค่ไหน เรามีความเครียดมากแค่ไหน เราทานอาหารแบบไหน ซึ่งในวันนี้ เราจะมาดูกันว่า อาหารบำรุงผิว แบบไหนจะช่วยให้ผิวของเราสดใส น่าดึงดูดมากที่สุด มะเขือเทศ มะเขือเทศ มีคุณสมบัติช่วยลดปัญหาสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ นอกจากนี้ มะเขือเทศยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ “เบตาแคโรทีน” ที่ช่วยในการปกป้องผิวจากรังสี UV และป้องกันไม่ให้แสงแดดมาทำร้ายชั้นผิวหนัง นอกจากนี้แล้ว มะเขือเทศยังมีคุณประโยชน์เพิ่มเติมอีกด้วย เพราะว่ามีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค วิตามินเอ และวิตามินซี ซึ่งวิตามินเหล่านี้ช่วยลดฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ น้ำผึ้ง น้ำผึ้ง เป็นสารจากธรรมชาติ 100% ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้น้ำผึ้งสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วยเช่นกัน โดยน้ำผึ้งสามารถชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ เพราะว่ามีสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ วิตามินบี วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน นอกจากนี้แล้ว น้ำผึ้งยังมีสาร Humectant ซึ่งช่วยในการดึงดูดน้ำ และดึงความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวหน้า เราจึงเห็นสาวๆ หลายคนชอบใช้น้ำผึ้งมาส์กหน้า แต่ว่านอกจากการมาส์หน้าแล้ว การรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำก็เป็นวิธีบำรุงผิวที่ดีมากๆ เช่นกัน โยเกิร์ต โยเกิร์ต คืออาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ช่วยให้เราสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ และยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายอีกด้วย ในเมื่อเราย่อยอาหารได้ดีขึ้น ขับถ่ายได้ดีขึ้น ดูดซับสารอาหารได้ดีขึ้นแล้ว แน่นอนว่าผิวพรรณของสาวๆ จะดูผ่องใสขึ้นอย่างแน่นอน ปลาทะเล เราได้ยินเขาพูดกันเสมอว่า ปลาทะเลน้ำลึกมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง แต่ว่าทุกคนพูดเพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงนั่นเอง ซึ่งโอเมก้า 3 และคอลลาเจนในปลาเหล่านี้ สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการอักเสบของผิวได้ นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี แร่ธาตุอย่างสังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดการละคายเคือง ช่วยกำจัดสิว บำรุงผิวหนังให้เต่งตึงและดูสดใส ปลาทะเลที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาดีน และปลาแมคเคอเรล  ธัญพืช และถั่วต่าง ๆ ธัญพืช และถั่วต่าง ๆ มีสารที่มีประโยชน์หลากหลายดังนี้: เบต้าแคโรทีน กรดไขมันโอเมก้า 3 สังกะสี วิตามินอี และวิตามินบี 12 ที่ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ และปกป้องผิวจากรังสี UV นอกจากนี้แล้ว ธัญพืชยังมีแร่ธาตุ และ วิตามินอื่น…

Read More
by Unknown author
สิว ทุกประเภทมีทางแก้

สิว ทุกประเภท มีทางแก้! สิวเสี้ยน สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวไม่มีหัว สิวผด

      “โอ๊ย! ไม่นะ สิวเห่อขึ้นเต็มหน้าเลย ทำยังไงดี?” ปัญหาบนใบหน้าหลัก ๆ ของใครหลายคนคงจะไม่พ้นเรื่อง สิว เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดบนหน้าแล้ว ยังทำให้รู้สึกไม่มั่นใจใบหน้าของตนเองอีก หลาย ๆ ครั้งพยายามหายามารักษาก็ไม่หาย บางทีกลับเห่อขึ้นมามากกว่าเดิมอีก! ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าหากเราเข้าใจว่าสิวบนใบหน้าของเรานั้นคือสิวประเภทอะไร จะได้แก้ปัญหาได้อย่างถูกจุดนั่นเอง  สิว คืออะไร? เกิดขึ้นได้อย่างไร?       โดยปกติแล้ว สิวเกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไปและชั้นผิวหนังเริ่มหนาขึ้น จนไขมันไปอุดตัน สะสมอยู่ภายในรูขุมขน ทำให้เกิดอาการอักเสบแบบไม่รุนแรงใต้ผิวหนังและก่อให้เกิดเป็นสิวประเภทต่าง ๆ นอกเหนือจากนี้ หากรูขุมขนที่อุดตัน เกิดการหมักหมมหรือไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดี แบคทีเรีย P.acnes จะย่อยไขมันภายในรูขุมขนนั้นเป็นอาหาร ซึ่งจะไปกระตุ้นการอักเสบให้หนักมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นสิวอักเสบนั่นเอง ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวนั้น อาจจะมาจากฮอร์โมนภายในร่างกาย ความเครียด หรือแม้กระทั่งจากแพ้สเตียรอยด์ที่เป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องสำอาง ดังนั้นเมื่อเรารู้ถึงสาเหตุของการเกิดสิวแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิวบนใบหน้าของเราคือสิวประเภทอะไรกันนะ? จริง ๆ แล้ว สิว แบ่งออกได้เป็นกี่ประเภท?       ที่จริงแล้วสิวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ และในแต่ละประเภทจะแบ่งแยกย่อยไปอีกตามลักษณะหรือขนาดความรุนแรงของการอักเสบ ซึ่งจะแบ่งได้ตามนี้ คือ สิวอุดตัน/สิวเสี้ยน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณจมูก คางและใต้ริมฝีปาก โดยจะมีลักษณะคล้ายสิวอุดตันหัวดำและมีกระจุกขนเล็ก ๆ หลายเส้นรวมกันอยู่ในสิว พร้อมกับไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ทำให้เกิดการอุดตัน โดยจะแบ่งย่อยได้อีก 3 ประเภท ได้แก่ สิวหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด เกิดจากการสะสมของไขมัน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวหนังที่ตาย จะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีดำ รูขุมขนจะเปิดออกจนเห็นหัวสิว โดยจะพบได้ที่บริเวณใบหน้า และผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณหลัง หน้าอก แขน หัวไหล่ และลำคอ เป็นต้น   สิวหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด เกิดจากการอุดตันเหมือนกัน แต่รูขุมขนจะปิด ทำให้มีลักษณะเป็นตุ่มนูน เหมือนเป็นไตก้อนเล็ก ๆ บีบออกยาก เมื่อปล่อยไว้เวลานาน อาจจะขยายขนาดใหญ่ขึ้น และมีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบชนิดต่างๆ ได้ สิวผด สิวหิน สิวเทียม (Acne Aestivalis) จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีแดง ไม่มีหัว จำนวนมาก เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกสาก ๆ เป็นเม็ดทราย มีอาการคันและแสบบริเวณที่เกิดสิวผด ซึ่งที่จริงแล้วสิวผดพัฒนามาจากผื่น เนื่องจากเมื่อเกิดผื่นขึ้น ต่อมไขมันก็จะผลิตไขมันออกมามากจนผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตัน…

Read More
by Unknown author
คอลลาเจนคืออะไร ช่วยให้ผิวขาวใส ได้จริงหรือ

คอลลาเจน คืออะไร? ช่วยให้ผิวขาวใส หน้าเด็ก ได้จริงหรือไม่ ?

      “กิน คอลลาเจน สิ ผิวจะได้ขาวใส ไม่แก่ไว” หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินมาประมาณนี้เกี่ยวกับตัวคอลลาเจน แล้วก็ลองทำตามคนอื่นที่แนะนำ แต่ไม่รู้เลยว่าคอลลาเจนนั้นคืออะไร ช่วยทำให้ผิวขาวใส เต่งตึงได้จริงหรอ วันนี้เราจะพาทุกคนมาค้นพบไปพร้อม ๆ กัน มาเริ่มกันเลย !  คอลลาเจน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ?       โดยปกติแล้ว คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง แข็งแรง พบได้ตามกระดูก กระดูกอ่อน รวมถึงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายของคนและสัตว์ เมื่อเรารับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา หรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป โปรตีนนั้นจะถูกย่อยสลายจนแตกตัว และต่อตัวขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อหรือกระบวนการรักษาแผล ซึ่งเราเรียกว่า คอลลาเจน นั่นเอง ในช่วงอายุ 20 ต้น ๆ ผิวหนังของเราจะมีคอลลาเจนประกอบอยู่ประมาณ 75% แต่ส่วนใหญ่อาจจะมีน้อยกว่านั้น เนื่องจากปัจจัยรอบตัวต่าง ๆ เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ รังสี UV จากแสงแดด รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ สูบบุหรี่       ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนน้อยลงตามอายุที่มากขึ้น โดยเฉลี่ยถึงปีละ 1.5% ทำให้ผู้ที่มีอายุมาก ผิวหนังจะเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ขาดความยืดหยุ่น และบริเวณข้อต่อเริ่มไม่แข็งแรง รับประทานผลิตภัณฑ์คอลลาเจนช่วยได้จริงหรอ ?       หลาย ๆ คนเริ่มกังวลถึงปัญหาผิวแก่ก่อนวัยอันควร ทำให้เริ่มหาและทดลองใช้อาหารเสริมคอลลาเจนต่าง ๆ เพราะเชื่อจากโฆษณาว่า ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารเสริมคอลลาเจนในรูปแบบที่เรียกว่า Collagen Hydrolysate หรือกระบวนการย่อยบางส่วน เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหนังได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์สุขภาพที่มีชื่อเสียงอย่าง Netdoctor ระบุออกมาว่า ผลลัพธ์นั้นค่อนข้างขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ รายบุคคล ทั้งเรื่องของโครงสร้างผิวหนัง การรับประทานอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่อาจจะยืนยันได้ว่าอาหารเสริมคอลลาเจนจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณได้จริง หากแต่ผลิตภัณฑ์นั้นจะช่วยได้จริง ก็ต้องใช้ติดต่อกันถึง 2 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจน เคล็ดลับ ทำอย่างไรให้ผิวขาวใส อยู่กับเรานานที่สุด       ปัจจัยภายนอกที่สำคัญในการเร่งให้คอลลาเจนในผิวหนังของเราน้อยลง คือ พฤติกรรมและการรับประทานอาหารบางชนิด ดังนั้นเราควรปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้เพื่อคงความอ่อนวัยของผิว ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารปิ้งย่างและอาหารสำเร็จรูป…

Read More
by Unknown author
Riviera-Suisse-best-facial-night-cream

Hall of Fame: รางวัลต่างๆที่ Skincare จาก Riviera Suisse ได้คว้ามาแล้ว!

หลาย ๆ คนตามหา Skincare ที่ดีจากรีวิวบ้าง คนใกล้ตัวแนะนำบ้าง หรือผ่านจากโฆษณา แต่รู้หรือไม่! เราสามารถหาได้จาก Event ดัง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกินแคร์ได้เหมือนกัน ซึ่ง Event เหล่านี้มีการมอบรางวัลการันตีคุณภาพสำหรับแบรนด์ที่ถูกเลือกอีกด้วย และ และ และ ! Riviera Suisse Foam ของเราก็ได้รับรางวัลจาก CLEO BEAUTY HALL OF FAME 2019 รวมถึง Face Balm Night ที่ได้รับรางวัลจาก EVEANDBOY Best Selling Awards 2019 วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทั้ง Foam และ Face Balm Night ของเราดีอย่างไร ทำไมถึงได้รับรางวัลเหล่านี้มาครอบครอง พร้อมแล้วไปดูกัน! Face Balm Night ครีมบำรุงผิวหน้า ที่ได้รางวัล EVEANDBOY Best Selling Awards 2019 Face Balm Night เป็นครีมเนื้อบาล์มที่ช่วยบำรุงผิวหน้าในเวลากลางคืน เมื่อใช้เป็นประจำ จะสามารถช่วยคงความชุ่มชื้นตลอดคืน ทำให้ริ้วรอยแลดูจางลง และผิวนุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ เกิดจากการเพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว โดย Face Balm Night เหมาะสำหรับการใช้กลางคืนก่อนนอน และมีคุณสมบัติดังนี้  สร้างเกราะป้องกันเพื่อต่อสู้กับสภาพแวดล้อม ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว  เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวจากกรดไฮยาลูโรนิก Panthenol และ น้ำมันเมล็ด Moringa ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง ยกกระชับ จาก Syn®-TC เพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ลดเลือนริ้วรอยได้ภายใน 28 วัน โดยวิธีใช้นั้น ให้หมุนฝาขวดเพื่อปลดล็อก กดฝาขวดเบาๆ ใช้เป็นประจำหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้าตอนกลางคืน ทาครีมให้ทั่วใบหน้าและคอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา รางวัล Best Selling Awards นั้นไม่ได้ ได้มาง่าย ๆ แต่เป็นเพราะ Face Balm Night มีส่วนผสมที่สำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเมล็ด Moringa (มอริงก้า) –  มีสรรพคุณในการชะลอวัย ต้านการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้น ดังที่ถูกเรียกว่าต้นไม้มหัศจรรย์ หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต Syn®-TC – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ลดเลือนริ้วรอยให้ดูอ่อนเยาว์ …

Read More
by Unknown author
laughing and wrinkles riviera suisse JPEG

หัวเราะ ช่วยให้ผิวสวยสดใส? “โยคะหัวเราะ” คุณประโยชน์ต่างๆที่คาดไม่ถึงของการ หัวเราะ

ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะไม่ค่อย หัวเราะเพราะกลัวเกิดริ้วรอยย่นรอบดวงตาและร่องแก้ม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การ หัวเราะทำให้อารมณ์ดีและหน้าตาสดใส และการ หัวเราะบ่อย ๆ ยังส่งผลดีต่อผิวพรรณเราอีกด้วย เพราะการ หัวเราะ นั้นมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับการออกกำลังกาย ทันทีที่คุณ หัวเราะ กล้ามเนื้อบนใบหน้าและทั่วร่างกายจะยืดตัว ชีพจรกับความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่สมอง ระบบไหลเวียนเลือด ระบบย่อย ระบบภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งผิวพรรณที่ทำให้ใบหน้าได้เคลื่อนไหว มีความยืดหยุ่น ไม่ตึงหรือเกร็ง ประกอบกับทำให้เราได้ความผ่อนคลายความเครียดด้วย ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าริ้วรอยบนผิวหน้าและตีนกาเกิดขึ้นได้อย่างไร การหัวเราะทำให้เกิดริ้วรอยได้จริงไหม และ โยคะ หัวเราะ มีประโยชน์อย่างไร รอยย่น ริ้วรอย และตีนกาบนผิวหน้า เกิดจากอะไรบ้าง อายุที่มากขึ้น เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้นส่งผลให้เซลล์แบ่งตัวได้น้อยลง จำนวนเซลล์ในชั้นหนังแท้จะเริ่มบางลง เส้นใยในผิวหนังหรือที่เรียกว่าอีลาสติน (Elastin) และคอลลาเจน (Collagen) ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงและความเต่งตึงของผิวหนังลดลง เป็นเหตุให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย และกลายเป็น ตีนกา ในที่สุด  การแสดงสีหน้าตามปกติ เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว ร้องไห้ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อเล็ก ๆ บริเวณหางตาเกิดการหดตัว ซึ่งสามารถกระตุ้นการเกิดรอยตีนกาได้ นอกจากนี้แล้ว การขมวดคิ้วทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้ว และมีริ้วรอยเป็นทางที่หน้าผาก หรือที่เรียกว่าหน้านิ่วคิ้วขมวดนั่นเอง พักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ก็ยังเป็นตัวเร่งทำให้เกิดรอย ตีนกา เร็วขึ้นอีกด้วย โดยปกติแล้ว คนเราควรนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน พฤติกรรมในการนอนหลับที่ดี จะช่วยทำให้ตีนกาไม่เด่นชัด ทำให้ใบหน้าสดใสเปล่งปลั่ง สูบบุหรี่ ยาเสพติด แน่นอนว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายและจิตใจ พฤติกรรมนี้อาจจะช่วยให้เราคลายเครียดในระยะสั้น แต่ในระยะยาว อาจจะทำให้เราเครียดมากกว่าเดิม เพราะปัญหาทางสุขภาพและ ริ้วรอย ตีนกา ที่จะทำให้เราดูโทรมลง โดยธรรมชาติแล้ว คนที่มีผิวแห้งจะมีริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวมัน เพราะว่าผิวแห้งจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยกว่า จึงสำคัญมากที่ต้องรู้ว่าตัวเองมีผิวประเภทไหนก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (คุณมีผิวประเภทไหน สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่) นอกจากผิวแห้งตามธรรมชาติแล้ว เราก็สามารถพบเจอปัญหาผิวขาดน้ำได้อีกด้วย โดยถ้าคุณต้องการฟื้นฟูผิวหน้า เปลี่ยนจากผิวโทรมเป็นผิวใสสุขภาพดี สามารถเริ่มได้จากการบำรุงผิวหน้าก่อนนอน ด้วย Face Balm Night ที่ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว แต่ถ้าต้องการฟื้นฟูผิวหน้าเร่งด่วนแบบ 24 ชั่วโมงไม่มีหยุด สามารถใช้ SET 24 Hours 30 ML. (Face Balm, Face Balm Night) ที่รวมถึงผลิตภัณฑ์ Face Balm SPF30…

Read More
by Unknown author

ผิวบอบบาง ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหนังบาง แพ้ง่าย ไวต่อแดด ควรหลีกเลี่ยง

ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย อาจจะเป็นชนิดผิวของคุณโดยธรรมชาติเลยก็เป็นได้ (ถ้าคุณสงสัยว่าโดยธรรมชาติแล้ว คุณมีผิวชนิดไหน สามารถคลิ๊กดูได้ที่นี่เลย) แต่จริง ๆ แล้วคุณอาจมีสุขภาพผิวที่ดีกว่านี้ได้ เพียงเพราะคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำร้ายผิวของคุณอย่างไม่รู้ตัว วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดไหน และสารอะไรบ้างในผลิตภัณฑ์ผิว ที่ทำอันตรายให้กับผิวคุณมากกว่าให้คุณประโยชน์ ส่วนผสมในสกินแคร์ ที่ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Alcohol): ผิวบอบบางแพ้ง่าย มักระคายเคืองต่อแอลกอฮอล์ได้ง่าย เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ โดยการดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ดังนั้นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุด สารที่มีความเป็นกรดมากเกินไป เช่น กรด BHA (Beta Hydroxy Acid) กรดวิตามินซี กรดวิตามินเอ ถึงแม้ว่าสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสขึ้นจริง แต่สุดท้ายกลับทำให้ผิวบอบบางลง เนื่องจากสารเหล่านี้จะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้บริเวณผิวหนังกำพร้าหลุดลอกเร็วมากกว่าปกติ ส่งผลให้ผิวบอบบาง เกิดการระคายเคือง และนำไปสู่ปัญหาผิวไวต่อแสงแดด ส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว (Ethoxylated Agent): เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง และจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมาก หมายความว่าคนที่มี ผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีนี้มากที่สุด ส่วนผสมของอ็อกซีเบนโซน (Oxybenzone): ครีมกันแดดที่มีคุณภาพไม่ดีบางชนิด อาจจะมีสารนี้ ถ้าใช้ครีมกันแดดที่มีสารนี้ในปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองและเกิดอาการแพ้ได้ นอกจากทำให้เกิดอาการแพ้แล้ว สารนี้สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังของเรา และสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ในทางกลับกัน ครีมกันแดดที่ดีควรจะปกป้องเราจากแสงแดดและรังสี UVA และ UVB รวมถึงบำรุงผิวหน้า เช่น Face Balm SPF30 PA+++ ของแบรนด์ Riviera Suisse ที่มีวิตามินอี ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้า มี Chromabright MFF และ Sunsil Tin natural white ที่ช่วยปรับสภาพผิวของคุณให้ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติทันทีที่ใช้ โดยผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังและเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่แพ้ง่าย ส่วนผสมของน้ำหอม (Fragrance): โดยปกติสกินแคร์ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดด เซรั่ม หรือ น้ำตบ ล้วนมีส่วนผสมของน้ำหอมหรือกลิ่นสังเคราะห์ เพื่อช่วยดึงดูดผู้ซื้อมากขึ้นนั่นเอง แต่จริง ๆ แล้วเราควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากน้ำหอมจะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง โดยเฉพาะผิวบอบบาง ส่วนผสมของพาราเบน (Paraben): สารพาราเบนหรือสารกันเสียถือว่าเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือผื่นแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย บอบบาง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดปริมาณจำกัดของสารชนิดนี้เอาไว้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงสกินแคร์ ใครมีผิวบอบบางแพ้ง่ายบ้าง อาการ สังเกตได้ง่าย ๆ คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ผู้มีอาการแพ้อาหาร หรือผู้มีอาการแพ้อากาศ เพราะว่าผู้หญิงในวัยทำงานก็สามารถมีผิวบอบบางแพ้ง่ายได้เช่นกัน อาจจะเป็นเพราะผิวได้รับสารเคมีสะสมเป็นระยะเวลานาน จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวและเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่ใช้มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น โดยถึงแม้ว่าทาง Rivera Suisse แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังโดยตรงมากกว่า…

Read More
by Unknown author
ผิวหนัง กับ น้ำ ดื่มน้ำอย่างไรให้มีประโยชน์ ผิวสุขภาพดี ผิวสวย ไม่เกิด ผิวขาดน้ำ

ผิวหนัง กับ น้ำ ดื่มน้ำอย่างไรให้มีประโยชน์ ผิวดูเด็ก ผิวสวย ไร้สิว

     ผิวหนัง กับ น้ำ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ? โดยปกติน้ำหนักตัวของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 60 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งในชั้นผิวหนังทั้งหมดมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 64 เปอร์เซ็นต์ ร่างกายอาจจะสูญเสียน้ำได้จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย หรือ กิจกรรมที่มีการออกแรงมาก ทำให้เหงื่อออก และถ้าหากเราไม่ใส่ใจกับการดื่มน้ำมากนัก เช่น ดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เหมาะสม จะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพตามมาและจะส่งผลต่อผิวเราโดยตรง การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกเหนือจากการบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้ว การดื่มน้ำเปล่าสามารถป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ รวมถึงปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ทำให้ใบหน้าชุ่มชื้น ผิวพรรณสดใส ไม่แห้งกร้าน ผิวสวยสุขภาพดี นั่นเอง ผิวหนัง ขาดน้ำสามารถรู้ได้อย่างไร      หลายคนอาจจะคิดว่า เมื่อผิวของตนเองนั้นเริ่มแตก ลอกเป็นขุยหรือหยาบกร้าน แสดงว่าผิวแห้ง แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะเราอาจจะมีผิวขาดน้ำก็ได้ ดังนั้นผิวแห้งและผิวขาดน้ำนั้นจะมีความแตกต่างกันดังนี้ ผิวแห้ง เป็นชนิดของผิวที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันน้อยกว่าปกติ จึงไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ทำให้ผิวแห้งตึงและลอกเป็นขุย โดยทั่วไปแล้วคนที่มีผิวแห้งจะเป็นทั่วบริเวณทั้งใบใบหน้าและไม่ค่อยมีปัญหาสิว เพราะมีรูขุมขนเล็ก ไม่มีน้ำมันบนผิวหน้ามาก โดยวิธีการดูแลหากผิวแห้งเบื้องต้น จะเป็นการทามอยเจอร์ไรซ์เซอร์ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ      ผิวขาดน้ำ เป็นอาการของผิวที่มีน้ำหล่อเลี้ยงใต้ผิวหนังไม่เพียงพอ แต่ต่อมไขมันยังผลิตน้ำมันออกมาปกติ ทำให้น้ำมันเคลือบผิวหน้ามาก แต่ผิวยังดูแห้ง หยาบกร้าน ผิวขาดน้ำสามารถเกิดได้กับสภาพผิวทุกประเภท โดยวิธีการดูแลหากผิวขาดน้ำในเบื้องต้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เพื่อป้องกันการเกิดสิวและคงความชุ่มชื้นของผิวหน้าได้ อย่าง Riviera Suisse Foam และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รูขุมขนกระชับด้วย Micellar Tonic  ควรดื่มน้ำวันละเท่าไรถึงจะดีต่อ ผิวหนัง      โดยทั่วไปร่างกายจะสูญเสียน้ำในทุกวัน แต่จะสูญเสียในปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ดังนั้นนอกเหนือจากการดื่มน้ำเพื่อทดแทนในส่วนที่เสียไปแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายก็เป็นส่วนที่สำคัญเช่นกัน เราสามารถสังเกตได้ หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้มีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก และมีปัสสาวะสีเข้ม โดยปกติแล้วเราจะทราบกันว่า ใน 1 วัน เราควรดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว แต่ที่จริงแล้วปริมาณที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น อายุ เพศ และกิจกรรมที่ทำ  ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสม  ผู้ที่มีอายุ 4-8 ปี ควรดื่ม 5 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,200 มล. ผู้ที่มีอายุ 9-13 ปี ควรดื่ม 7-8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 1,600-1,900 มล. ผู้ที่มีอายุ 14-18 ปี…

Read More
by Unknown author
นอนดึก ทำงานหนัก หน้าโทรม หน้าพัง ริ้วรอย

นอนดึก ตัวการร้าย ทำลายผิว สิวขึ้น หน้าโทรม หน้าพัง!

นอนดึก นอนไม่หลับล้วนมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา      “นอนดึก” เมื่อเข้าสู่วัยเรียนมหาวิทยาลัยหรือวัยทำงาน เราก็ยิ่งมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เรานอนไม่หลับ ทั้งเรื่องการทำงานที่หนักหน่วง เรื่องสังคม รวมถึงปัญหาอีกหลายด้านที่รุมเร้าเข้ามาจนเป็นเหตุให้เกิดนิสัยการนอนดึก เนื่องจากเราคิดว่าควรใช้เวลาให้มากและคุ้มค่าไปกับการทำอะไรบางอย่างมากที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่าการนอนดึกในระยะยาวนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก และหนึ่งผลกระทบนั่นก็คือ ผิวพรรณของเราจะดูหมองคล้ำ ขอบตาดำ เกิดสิว หรือแม้กระทั่งทำให้ผิวเราเกิด ริ้วรอย ดูแก่กว่าวัย ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมการนอนดึกถึงส่งผลเสียต่อผิวขนาดนี้ และเมื่อรู้แล้วเราจะมีวิธีป้องกันยังไงดี    นอนดึก ส่งผลอย่างไรต่อผิวบ้าง      หลายคนอาจจะคิดว่า ถึงแม้ว่าจะนอนดึก แต่หากนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง ก็ถือว่าเรานอนพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว แต่ผลที่ตามมาคือร่างกายต้องปรับตัวในการนอนดึกทุกวัน ๆ ส่งผลให้ระบบภายในร่างกายยังคงทำงานหนักอยู่และแปรปรวน เป็นเหตุให้ร่างกายเราไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่และส่งผลเสียต่อผิวพรรณดังต่อไปนี้ หน้าโทรม ผิวหมองคล้ำ  โดยปกติขณะที่เรานอนอยู่และอยู่ในช่วงที่หลับลึก ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาเพื่อช่วยให้การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวให้แข็งแรง ชุ่มชื้น ผิวสุขภาพดี แต่ถ้าหากเรานอนดึกหรือนอนไม่ตรงเวลา ร่างกายก็จะไม่หลั่งฮอร์โมนนี้ออกมา ทำให้ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่ง หน้าโทรม หมองคล้ำ ไม่สดใส  ผิวหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอย หากเรานอนดึก นอกจากร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนเพื่อซ่อมแซมร่างกายได้น้อยลงแล้ว ก็ยังสร้างคอลลาเจนที่สำคัญต่อโครงสร้างผิวได้น้อยลงอีกด้วย ทำให้ผิวของเราอ่อนแอไม่ทนทานกับมลภาวะภายนอกและเกิดริ้วรอย ไม่เต่งตึง แก่ก่อนวัย สิวบนใบหน้า การนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลต่อร่างกายทั้งระบบ เช่น ระบบหมุนเวียนเลือดและน้ำเหลือง และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ผลิตออกมาผิดปกติ โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งไปกระตุ่มต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เครียด เป็นเหตุให้เกิดสิวและเกิดการอักเสบของสิวมากขึ้นอีกด้วย ใต้ตาหมองคล้ำ เมื่อเรานอนดึก เส้นเลือดผิวใต้ตาเราขยายขึ้นและร่างกายเสียสมดุลทำให้เกิดการกักเก็บน้ำอยู่บริเวณใต้ผิวตา ขาดความชุ่มชื้น และบริเวณกลุ่มหลอดเลือดสีน้ำเงินที่อยู่บริเวณใต้ตาสังเกตได้ง่ายมากขึ้นบนผิวหนัง    เรามานอนให้เพียงพอเพื่อผิวที่ดีกันดีกว่า!      สิ่งที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาก็คือ การนอนพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้รีเฟรชซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและระบบภายในร่างกายทำงานได้ปกติ โดยเราควรที่จะนอนพักผ่อน 6-8 ชั่วโมง และควรนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ซึ่งหมายถึงต้องนอนหลับให้สนิท ไม่หลับ ๆ ตื่น ๆ เวลาที่เหมาะสมในการนอนคือ 4 ทุ่ม เนื่องจากการนอนหลับช่วง 4 ทุ่มจะทำให้ตับและถุงน้ำดีเริ่มทำงานเพื่อกระตุ้นการขับของเสียในร่างกายในช่วง 5 ทุ่มถึงตี 1 ทำให้ผิวพรรณสดใส      เพื่อที่จะนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพควรงดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนซึ่งจะทำให้กระตุ้นการทำงานของหัวใจ ร่างกายตื่นตัว รวมถึงควรสร้างบรรยากาศที่ดีในการนอน ไม่ให้มีเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังมีท่าการนอน เราไม่ควรนอนคว่ำหน้า ควรที่จะนอนหงายเพื่อไม่ให้หน้าถูกกดทับซึ่งเป็นสาเหตุของผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย อีกทั้งการนอนตะแคงหรือคว่ำหน้าอาจจะทำให้เกิดสิวได้ เนื่องจากปลอกหมอนอาจจะมีสิ่งสกปรกอยู่  อย่างไรก็ตามหากเกิดปัญหาผิวพรรณแล้ว เราก็ควรแก้ไขให้ถูกต้องอย่างตรงจุด ไม่ให้ปัญหาหนักขึ้นไปอีก เช่น  ผิวหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอยโดยเฉพาะบริเวณดวงตา อาจจะมีการทาครีมบำรุงรอบดวงตา โดยเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนังไว้ได้นานมากขึ้น อย่าง Riviera…

Read More
by Unknown author
ผิวขาดน้ำ ผิวลอก แตก

ผิวขาดน้ำ คืออะไร ? เข้าใจต้นตอ รักษาได้

     ผิวขาดน้ำ เป็นปัญหาที่อาจจะเคยได้ยิน คุ้นหูกันมาบ้าง เมื่อผิวของตนเองนั้นเริ่มแตก ลอกเป็นขุยหรือหยาบกร้าน หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าผิวของตัวเองนั้นเป็นผิวแห้ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะผิวที่หยาบกร้าน แตก ก็อาจจะเกิดจากการที่ผิวขาดน้ำได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าผิวขาดน้ำกับผิวแห้งนั้นแตกต่างกันอย่างไร มีวิธีสังเกตและดูแลเมื่อผิวขาดน้ำได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย! ผิวขาดน้ำ vs ผิวแห้ง      ผิวแห้ง เป็นชนิดของผิวแบบหนึ่งจากผิว 5 ชนิด เป็นชนิดของผิวที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันน้อยกว่าปกติหรือต่อมไขมันมีขนาดเล็ก จึงไม่ค่อยสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ผิวอาจจะแห้งตึงและลอกเป็นขุยบ้าง โดยทั่วไปแล้วคนที่มีผิวแห้ง จะมีผิวชนิดนี้มาตั้งแต่เกิด และผิวแห้งเหมือนกันทั้งหน้า จะมีรูขุมขนเล็กและไม่ค่อยมีปัญหาสิว      ผิวขาดน้ำ เป็นอาการของผิวที่มีน้ำหล่อเลี้ยงใต้ผิวหนังชั้นบนสุดไม่เพียงพอ ส่วนต่อมไขมันยังสามารถผลิตน้ำมันออกมาอยู่ในระดับที่ปกติหรือมากกว่าปกติ ทำให้อาจจะมีน้ำมันเคลือบผิวมาก แต่ผิวดูแห้ง หยาบกร้าน ผิวขาดน้ำสามารถเกิดได้กับสภาพผิวทุกประเภท ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวธรรมดา โดยถ้าเกิดขึ้นกับผิวมันจะเรียกว่า “ผิวมันขาดน้ำ”  สังเกตได้อย่างไรว่า ผิวขาดน้ำ ?      เราสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้หลังมือลูบที่ใบหน้าเบา ๆ ถ้ารู้สึกว่าผิวมีความหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น แสดงว่าผิวของเราขาดน้ำแล้วล่ะ นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตว่าผิวขาดน้ำหรือไม่จากลักษณะของผิวหน้าได้ดังต่อไปนี้ มีปัญหาสิวอุดตันง่าย (โดยปกติแล้ว หากเป็นผิวแห้งจะเกิดสิวยาก) รุขุมขนกว้าง (บ่งบอกชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นคนที่มีชนิดผิวแห้งมาแต่แรก) ผิวสาก ไม่เรียบเนียน รู้สึกได้เวลาลูบ ผิวแห้งและมันในเวลาเดียวกัน เป็นผื่นแดง ระคายเคืองและแพ้ง่าย ผิวลอก หรือผิวแตก เวลาล้างหน้าใหม่ๆ ผิวจะแห้ง แต่ก็กลับมามันอย่างรวดเร็ว ริ้วรอยดูลึกและชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อก่อน สาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำ อายุที่มากขึ้น ต่อมไขมันของผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการผลิตไขมันได้น้อยลง ทำให้สูญเสียน้ำจากชั้นใต้ผิวหนังได้ง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง ส่งผลให้ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าถูกทำลายจากสารเคมี และชะล้างน้ำมันที่เคลือบอยู่บนผิวมากเกินไป ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำได้ง่ายและมากขึ้น การขัดผิว ลอกหน้า หรือใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยผลัดผิวที่มีความเข้มข้นสูง จะทำให้ชั้นหนังกำพร้ามีการผลัดและหมุนเวียนเร็วกว่าปกติ จนไม่สามารถสร้างชั้นไขมันได้ทัน เป็นเหตุให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำชั้นใต้ผิวหนังได้ สภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นอากาศแห้ง แสงแดด หรือควันรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เมื่อความชื้นในบรรยากาศต่ำ จะทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมากขึ้นและอักเสบจากความแห้ง การใช้ชีวิตประจำวัน หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลม รวมไปถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียดก็เป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดผิวขาดน้ำได้  ผิวขาดน้ำดูแลอย่างไรดี ?      การที่ผิวขาดน้ำอยู่ ณ ตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องอยู่กับผิวขาดน้ำไปตลอดไป เราสามารถบำรุงและฟื้นฟูผิวได้ด้วยการเปลี่ยน  ไลฟ์สไตล์ โดยวิธีหลักของการแก้ผิวขาดน้ำเลยก็คือ เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวแทนการเพิ่มน้ำมันบนผิว เลือกผลิตภัณท์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ล้างแล้วหน้าไม่ฝืด หรือ “ล้างแล้วหน้าไม่เอี๊ยด” เช่น Riviera…

Read More
by Unknown author

ก้นกระชับ บั้นท้าย เฟิร์มได้ง่าย ๆ บอกลาก้นเหี่ยวใน 1 เดือน!

      ก้นหรือบั้นท้าย อาจจะเป็นส่วนของร่างกายที่หลายคนละเลย ไม่ค่อยใส่ใจในการดูแลซักเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่? ก้น เป็นส่วนของร่างกายที่มีเสน่ห์ส่วนหนึ่งของสาว ๆ การมีรูปร่างที่ดีบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี และการใส่ใจดูแลตัวเองอย่าง healthy รู้อย่างนี้แล้ว มาดูแล ก้น ให้กระชับ ดูดีกันดีกว่า! สรีระที่ทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น       จากงานวิจัยต่างประเทศเผยว่าสัดส่วน 7:10 ของเอวและสะโพก เป็นสัดส่วนที่น่าดึงดูดมากที่สุดสำหรับผู้หญิง เนื่องจากสรีระช่วงเอวจะเล็กและสะโพกผาย เมื่อลองมองจากด้านข้างลำตัวจะเห็นส่วนเว้า ส่วนโค้งหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การมีสรีระแบบ S-Curve       การมีสัดส่วนแบบ S Curve นอกจากทำให้คุณดูดีและมีความเซ็กซี่แล้ว ยังสามารถทำให้คุณมั่นใจในตัวเองได้มากขึ้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันอย่างไม่ต้องกังวล เพราะคุณรู้ว่าคุณดูดียังไงล่ะ ! สาเหตุที่ทำให้ก้นไม่เฟิร์ม ไม่กระชับ       การที่ก้นย้วย หย่อน เกิดจากหลายสาเหตุ โดยวันนี้เราจะยกสาเหตุหลัก ๆ ที่สามารถสังเกตได้ง่ายและเกิดขึ้นจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเรากัน การนั่งทำงานเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ก้นใหญ่และย้วย เนื่องจากเมื่อเรานั่งเป็นเวลานาน ๆ จะส่งผลให้ก้นของเรารับน้ำหนักมากขึ้น เลือดและน้ำเหลืองบริเวณนั้นไหลเวียนได้ไม่ดี หรือแม้กระทั่งทำให้ไขมันไปสะสมไว้ที่ก้นและอาจจะเป็นต้นตอของการเกิดเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้มได้อีกด้วย  อายุที่มากขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยในการรักษาสภาพของผิวหนังให้ดูเต่งตึง มีน้ำมีนวล ได้น้อยลง เป็นเหตุให้ก้นของเราเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และทำให้ความมั่นใจของสาว ๆ ลดลงอีกด้วย มีกล้ามเนื้อน้อยบริเวณก้น เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของก้นไม่เฟิร์ม ไม่กระชับ โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะมีกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยในการพยุงร่างกายและทำให้สัดส่วนดูเข้ารูปมากขึ้น การที่เราไม่เพิ่มกล้ามเนื้อจะทำให้ร่างกายส่วนต่าง ๆ มีแต่ชั้นไขมันสะสมอยู่ เป็นเหตุให้ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อยและก้นไม่กระชับ ไม่เฟิร์ม การรับประทานอาหารที่มีรสชาติหวาน เค็มและมีไขมัน หากใครชอบทานอาหารที่มีรสเค็มเป็นปริมาณมาก จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไปและตัวบวมได้ หรือการทานอาหารที่มีไขมันสูง เป็นเหตุให้ร่างกายมีไขมันมากและไปสะสมอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหย่อน ยาน ไม่กระชับ อาจจะทำให้เกิดเซลลูไลท์และปัญหาริ้วรอยขึ้นได้ ทำอย่างไรให้ก้นกลับมากระชับ เฟิร์มเหมือนเดิม ? การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้สุขภาพดีขึ้น ยังสามารถทำให้หุ่นของคุณเข้ารูปมากขึ้นได้อีกด้วย การทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไป หรือน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้มีไขมันใต้ผิวมากขึ้น และไปกองตามสัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งถ้ามีไขมันไปกองที่ก้น ช่วงแรก ๆ คุณอาจจะดูมีน้ำมีนวลขึ้น แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจจะดูไม่กระชับ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายแบบ cardio สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย ทำให้รูปร่างของคุณดูกระชับขึ้น ส่วนการออกกำลังกายแบบสร้างกล้ามเนื้อ สามารถทำให้คุณมีรูปร่างที่สมส่วนมากขึ้น แขนขา และ ก้น ไม่หย่อนยาน โดยเราจะมาแนะนำท่าออกกำลังกายที่ช่วยให้บั้นท้าย กระชับ เฟิร์ม มากขึ้น ท่า…

Read More