by Unknown author
์Niacinamide คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

Niacinamide ส่วนผสมสุดฮอต พร้อม 8 คุณประโยชน์ แก้ครบทุกปัญหาผิว

     หลายคนคงจะพบเจอกับปัญหาสิวและผิวไม่เรียบเนียนซึ่งเป็นปัญหาผิวหลัก ๆ ที่ทำให้สาว ๆ ปวดหัวกัน หนึ่งในส่วนผสมที่หลายคนเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาสิว คงหนีไม่พ้น Niacinamide ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการเกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ และยังช่วยในเรื่องคุมความมันให้กับผิวหน้า อย่างไรก็ตามสารชนิดนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่ช่วยในเรื่องปัญหาสิวเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวหน้าในด้านอื่น ๆ อีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Niacinamide กันให้มากขึ้นว่าคืออะไร และมีคุณประโยชน์อะไรอีกบ้าง Niacinamide คืออะไร ?      Niacinamide ที่จริงแล้วก็คือ Vitamin B3 ซึ่งอยู่ในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) หรือจะเรียกว่า Niacin (Nicotinic acid) ก็ได้      วิตามินตัวนี้นอกเหนือจากช่วยรักษาสิวและควมคุมความมันแล้ว ยังสามารถฟื้นฟูผิวได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ลดอาการแดงจากสิว ลดอาการระคายเคืองบนผิว ลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็นจากสิว รวมถึงช่วยให้ผิวกระชับ ชุ่มชื้นจากการกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) อีกทั้ง Niacin เป็นวิตามินประเภทละลายน้ำได้ จึงมักจะนำมาใช้เป็นส่วนผสมของสกินแคร์ประเภทเซรั่ม เอสเซ้นส์ หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเบา ซึ่งเมื่อเทียบกับสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติในการรักษาคล้าย ๆ กันแต่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น วิตามินซี หรือ AHA BHA และ PHA เป็นต้น Niacinamide นั้นจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ทำให้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว Niacinamide ทำงานอย่างไร ?       จริง ๆ แล้ว Niacinamide จะผลิตขึ้นมาในร่างกายของคนเราได้ ผ่านการรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 3 สูงหรือสาร niacin เช่น อโวคาโด้ เห็ด และอกไก่ หลังจากที่รับประทานเข้าไป ร่างกายจะแปลง niacin เป็น niacinamide ซึ่งช่วยในเรื่องระบบเผาผลาญ ระบบประสาทและการต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลให้การทำงานของเซลล์ผิวดียิ่งขึ้นด้วย Niacinamide มีประโยชน์อะไรบ้าง ? ช่วยลดเลือนริ้วรอย ผลการวิจัยแบบ Double-blind Study ในผู้หญิงอายุ 40-60 ปี พบว่าเมื่อใช้ Niacinamide ที่มีความเข้มข้น 5% เป็นเวลา 12 สัปดาห์ สามารถลดเลือนริ้วรอยได้ เนื่องจากสารดังกล่าวจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึงและกระชับขึ้น ช่วยรักษาสิวและลดโอกาสการเกิดสิว  Niacinamide มีฤทธิ์ที่ช่วยต่อต้านการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวบนผิว อีกทั้งยังอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าส่วนผสมที่นิยมใช้รักษาสิว เช่น Benzoyl Peroxide หรือ Retinoids…

Read More
by Unknown author
8 วิธีกระชับรูขุมขน ลดรูขุมขนให้ดูเล็กลง เพื่อผิวหน้าที่สวยเนียนขึ้น

8 วิธีกระชับรูขุมขนกว้าง ลดรูขุมขนให้ดูเล็กลง เพื่อผิวหน้าสวยเนียนขึ้น

     รูขุมขนกว้าง เป็นปัญหากวนใจประเภทหนึ่งบนผิวหน้าของใครหลาย ๆ คน ซึ่งปัญหานี้เกิดจากต่อมผลิตไขมันชั้นใต้ผิวหนังขยายตัวใหญ่ขึ้น ทำให้รูขุมขนบนใบหน้ามีขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ แต่ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ รูขุมขนจะไม่มีอาการอักเสบใด ๆ โดยรูขุมขนที่กว้างสามารถส่งผลต่อการเกิดสิว เนื่องจากการขยายขนาดของต่อมไขมันทำให้มีการผลิตไขมันมากขึ้น และมีโอกาสทำให้เกิดสิวตามมา   วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่ารูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร พร้อม 8 วิธีการดูแล รักษารูขุมขนกว้าง ไปดูกันเลย! สาเหตุที่ทำให้รูขุมขนกว้าง เกิดจากอะไร ?      หลายคนอาจจะคิดว่า สาเหตุของรูขุมขนที่กว้างนั้น อาจเป็นเพราะการล้างหน้าไม่สะอาด ทำให้รูขุมขนอุดตันและติดเชื้อ เป็นสิว และสิวก็ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น เพราะว่าผู้ที่มีรูขุมขนกว้างมักจะกำลังมีสิวอักเสบอยู่ หรือเคยมีประวัติว่าเป็นสิวรุนแรง ทำให้มีรอยแผลเป็นบริเวณผิวหน้า แต่จริง ๆ แล้ว การมีรูขุมขนกว้างนั้นยังไม่มีสาเหตุหลักที่แน่ชัด โดยสันนิษฐานว่าปัจจัยหลักประกอบไปด้วย พันธุกรรม เชื้อชาติ ประเภทผิว การสัมผัสกับแสงแดด และอายุ ตัวอย่างเช่น มีงานวิจัยค้นพบว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้หญิงชาวบราซิลจะมีรูขุมขนที่กว้างมากกว่าผู้หญิงชาวจีน 8 วิธีกระชับรูขุมขนกว้าง หน้าเนียนใสไร้สิว ทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง       เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลรูขุมขนให้สะอาด เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ถนอมผิวหน้าอย่างอ่อนโยนประมาณวันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรล้างหน้าบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการขัดผิวหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแห้งเสีย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย เพราะคนที่มีผิวหน้ามันมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวจากการอุดตันของไขมันและสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงควรมีวินัยในการดูแลผิวที่มากขึ้น ทางรีเวียร่า สวิซ ก็มี Facial Foam ที่ได้รับรางวัล The Best Cleansing Mousse จาก CLEO BEAUTY HALL OF FAME 2019 ซึ่งเป็นโฟมเนื้อนุ่ม สามารถทำความได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยนต่อผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นหลังล้างหน้าได้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว การรักษาเฉพาะจุด       บริเวณผิวที่มีความมันจะทำให้รูขุมขนบริเวณนั้นกว้างและสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากกว่าบริเวณผิวที่แห้ง ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์หรือครีมมาสก์ใบหน้าเฉพาะจุด เช่น จมูก แก้ม หน้าผาก จะช่วยกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวหน้าของเราได้ นอกเหนือจากนี้ ยังสามารถใช้กระดาษซับหน้ามัน เพื่อลดความมันบนใบหน้าระหว่างวันและป้องกันการอุดตันที่นำไปสู่การเกิดสิวได้ สครับผลัดเซลล์ผิวหน้า      การอุดตันที่ก่อให้เกิดการขยายตัวของรูขุมขนอาจจะเกิดจากเซลล์ผิวที่ไม่ถูกผลัดออกตามรอบการผลัดผิว ทำให้เซลล์ผิวที่ถูกผลัดนั้นไปอุดตันในรูขุมขนและทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ดังนั้นการสครับผิวหน้าอย่างอ่อนโยนเป็นประจำอย่างน้อย 2 – 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ปกป้องผิวจากแสงแดด       ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดมากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลงจนผิวแห้งเสีย และทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ ดังนั้นเราควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างต่ำ เช่น…

Read More
by Unknown author
ครีมกันแดดแบบไหนเหมาะกับเรา SPF เท่าไหร่ดีถึงจะพอ

ครีมกันแดด หน้าร้อนนี้เลือกใช้ให้เหมาะสม ก่อนผิวของคุณจะเสีย!

     ช่วงนี้เข้าหน้าร้อนแล้ว หลาย ๆ คนก็จะต้องเจอกับแสงแดดแรง ๆ และจ้ามาก โดยเฉพาะช่วงกลางวัน หนึ่งในสกินแคร์ที่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกคงหนีไม่พ้น “ครีมกันแดด” ที่จะคอยปกป้องผิวหน้าและผิวกายจากความหมองคล้ำ ผิวไหม้ และมะเร็งผิวหนังได้  ส่วนวิธีการเลือกครีมกันแดดนั้น คนอื่น ๆ มักเข้าใจว่ายิ่งค่า SPF สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งกันแดดได้ดี ทั้งที่จริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป วันนี้เราพาทุกคนทำความเข้าใจ SPF กันก่อนว่าคืออะไรและควรเลือกครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเอง มาดูกันเลย! ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรังสี UV วายร้ายจากแสงแดด       โดยรวมคนส่วนใหญ่จะเข้าใจกันว่า รังสี UV จะส่งผลให้ผิวของเราดำ หมองคล้ำ แต่จริง ๆ แล้ว รังสี UV สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่  รังสี UVA: เป็นตัวการที่ทำให้ผิวมี ริ้วรอย เหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ เนื่องจากรังสี UVA สามารถทะลุไปถึงชั้นผิวหนังแท้และจะไปกดภูมิต้านทาน ทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังของเรา อีกทั้งยังสามารถทะลุผ่านกระจกได้ ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดไว้ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายในอาคาร จำสั้น ๆ ไว้ว่า UVA ทำให้เกิด Aging  รังสี UVB: รังสีชนิดนี้ส่วนใหญ่จะทำอันตรายให้แก่ชั้นผิวหนังกำพร้า จึงส่งผลให้ผิว ไหม้แดด ดำ หมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ รังสี UVB ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้ จำสั้น ๆ ว่า UVB ทำให้เกิด Burning   SPF คือค่าอะไรกันแน่ ?       SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB เท่านั้นของครีมกันแดด โดย SPF 1 ก็คือความสามารถของผิวในการทนแสงแดดตามระดับปกติก่อนที่ผิวจะไหม้ หมายความว่า ถ้าเราทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ผิวของเราจะทนแสงแดดที่แรงเท่าเดิมได้เป็นเวลานานขึ้นถึง 30 เท่า เช่น ถ้าในสภาวะปกติผิวของคุณสามารถทนแดดแรงเท่านี้ได้เป็นเวลา 10 นาที การทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 จะทำให้ผิวคุณทนแดดที่แรงเท่าเดิมได้ถึง 300 นาที ถ้าแสงแดดแรงขึ้น เวลาที่ทนแดดได้ก็จะน้อยลง แต่ถ้าแดดอ่อนลง เวลาที่ผิวคุณจะทนแดดได้ก็จะเพิ่มขึ้นนั่นเอง สรุปได้ว่า การที่มี SPF…

Read More
by Unknown author
ยารักษาสิวอักเสบบนใบหน้า ควรใช้แบบไหนดี

สิวอักเสบเกิดขึ้นบนหน้า! ควรเลือกซื้อยารักษาสิวหรือครีมแต้มสิวยังไงดี?

     เมื่อเวลาสิวอักเสบเกิดขึ้นบนใบหน้า หลายคน คงเลือกที่จะเดินเข้าไปในร้านขายยา เพื่อซื้อยารักษาสิวหรือครีมรักษาสิว นำมาแต้มสิวเอง แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราไม่เข้าใจสภาพผิวของตัวเอง และเลือกใช้ยารักษาสิวที่ไม่เข้ากันกับประเภทของผิวและสิวที่เป็นอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้อาการของสิวลดลงได้ ดังนั้นการได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและตรงจุด จะช่วยลดอาการของสิวและทำให้สิวหายไปได้ในที่สุด วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจสิวอักเสบและระดับความรุนแรงของสิวอักเสบกัน! สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ      โดยปกติแล้ว สิวเกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป และชั้นผิวหนังเริ่มหนาขึ้น จนไขมันไปอุดตัน สะสมอยู่ภายในรูขุมขน ทำให้เกิดอาการอักเสบแบบไม่รุนแรงใต้ผิวหนัง และก่อให้เกิดเป็นสิวประเภทต่าง ๆ นอกเหนือจากนี้ หากรูขุมขนที่อุดตัน เกิดการหมักหมมหรือไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดี แบคทีเรีย P.acnes จะย่อยไขมันภายในรูขุมขนนั้นเป็นอาหาร ซึ่งจะไปกระตุ้นการอักเสบให้หนักมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นสิวอักเสบนั่นเอง ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวนั้น อาจจะมาจากฮอร์โมนภายในร่างกาย ความเครียด หรือแม้กระทั่งจากแพ้สเตียรอยด์ที่เป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องสำอาง         การนอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอก็มีผลต่อร่างกายทั้งระบบเช่นกัน เช่น ระบบหมุนเวียนเลือด น้ำเหลือง และฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ผลิตออกมาผิดปกติ โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งไปกระตุ่มต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เครียด เป็นเหตุให้เกิดสิวและเกิดการอักเสบของสิวมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเรารู้ถึงสาเหตุของการเกิดสิวแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิวอักเสบบนใบหน้าของเรา คือสิวประเภทอะไรกันนะ? ประเภทของสิวอักเสบ      สิวอักเสบนั้นเป็นสิวที่พัฒนามาจากสิวอุดตัน เมื่อสิวอุดตันมีแบคทีเรียเจริญเติบโตอยู่ในตุ่มสิว ทำให้สิวเกิดการอักเสบ บวมแดง หากไปสัมผัสก็อาจจะทำให้เกิดความเจ็บปวดได้ สิวอักเสบสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด ขึ้นอยู่กับขนาดของสิว และความรุนแรงของการอักเสบ ได้แก่  สิวตุ่มแดง (Papule): เป็นตุ่มสิวสีแดงขนาดเล็ก ๆ แข็งนูน  สิวหัวหนอง (Pustule): เป็นตุ่มแดงและปวด เริ่มมีหัวหนองสีเหลือง เนื่องจากแบคทีเรียเจริญเติบโตบริเวณต่อมเหงื่อและรูขุมขน สิวก้อนลึก (Nodular Acne): เป็นตุ่มสิวแดงขนาดใหญ่ลึกลงไปชั้นใต้ผิวหนัง มีอาการเจ็บปวดที่รุนแรงมากขึ้นจากการที่แบคทีเรียเริ่มกระจายตัวอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง สิวซีสต์ (Cystic Acne): เป็นตุ่มสิวขนาดใหญ่ เกิดจากถุงน้ำใต้ผิวหนังอักเสบ เนื่องจากภายในมีหนองอักเสบ  สิวหัวช้าง (Acne Conglobata): เป็นสิวที่มีอาการอักเสบขั้นรุนแรง เนื่องจากสิวชนิดนี้จะมีอาการร่วมของสิวหัวหนอง สิวก้อนลึกและสิวซีสต์อยู่ด้วยกัน มีหนองไหลอยู่ตลอดเวลา โอกาสติดเชื้อง่าย ควรรีบทำการรักษาหรือปรึกษาแพทย์โดยด่วน ระดับความรุนแรงของสิวอักเสบและแนวทางการรักษา      การรักษาสิวนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจสิวที่เกิดขึ้น ทั้งบนใบหน้าและต่างจุดต่าง ๆ ของร่างกายกัน เพื่อที่จะได้วางแผนและเลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยปกติเราจะแบ่งสิวอักเสบตามความรุนแรงของอาการอักเสบ โดยจะมีทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่   ระดับที่ 1: สิวอักเสบเล็กน้อย (Acne Comedonica) ไม่มีการอักเสบรุนแรง จะพบสิวอุดตันหัวดำและหัวขาวในจำนวนเล็กน้อย มักกระจายบริเวณทั่วใบหน้า โดยเฉพาะจมูก หน้าผากและแก้ม มีโอกาสในการเกิดรอยสิวค่อนข้างต่ำ สิวในระยะนี้เราสามารถดูแลรักษาสิวได้ด้วยตนเอง ด้วยการใช้ครีมรักษาสิวหรือผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ Benzoyl Peroxide…

Read More