หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกับคำว่า กรดไฮยาลูโรนิค หรือ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic acid) กันมาบ้าง ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นจากผลิตภัณฑ์สกินแคร์หรือการเสริมความงาม ที่มีส่วนช่วยให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย กระชับใบหน้า แต่สงสัยกันหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว กรดไฮยาลูรอนิคนั้นคืออะไร สามารถช่วยได้จริงตามที่เค้าโฆษณากันหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบด้วยกัน!
กรดไฮยาลูโรนิค หรือ ไฮยาลูรอน คืออะไร?
กรดไฮยาลูโรนิค หรือ ไฮยาลูรอน แท้จริงแล้วไม่ได้มีฤทธิ์เป็นกรดตามชื่อแต่อย่างใด แต่เป็นโมเลกุลน้ำตาลหรือเรียกว่าสารไกลโคซามิโนไกลแคน (Glycosaminoglycan) ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติในการกักเก็บและดูดซับโมเลกุลของน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวสารเอง! ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวนุ่ม ลื่น และมีความยืดหยุ่น โดยร่างกายของเราสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ พบได้ในโครงสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่น ชั้นผิวหนังและกระดูกอ่อน
โดยธรรมชาติแล้ว กรดไฮยาลูโรนิคจะมีอายุยืนยาวอยู่ 24 วัน หลังจากนั้นร่างกายของเราก็จะผลิตขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้นระดับการผลิตกรดไฮยาลูรอนิคในร่างกายจะลดลงและอายุของกรดนั้นจะสั้นลงเรื่อย ๆ ทำให้ผิวของเราแห้ง ดูไม่เต่งตึง และเกิดริ้วรอยแห่งวัย
ดังนั้นกรดไฮยาลูโรนิคจึงเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่บรรดาสกินแคร์หลายชนิดเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม หรือมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งและลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเด้งอิ่มน้ำนั่นเอง
กรดไฮยาลูโรนิค ช่วยบำรุงผิวได้อย่างไร?
กรดไฮยาลูโรนิค จะถูกผลิตขึ้นมาและถูกหล่อเลี้ยงจากบริเวณผิวหนังชั้น Dermis (ผิวชั้นล่าง) และกระจายไปผิวหนังชั้น Epidermis (ผิวหนังกำพร้า) จึงส่งผลให้คุณสมบัติที่สามารถกักเก็บน้ำครอบคลุมไปยังบริเวณชั้นผิวหนังดังกล่าว โดยจะส่งผลดีต่อผิวหน้าของเราดังต่อไปนี่้
- ฟื้นฟูผิวจากอาการบาดเจ็บ: กรดไฮยาลูโรนิค สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังบริเวณใบหน้าที่มีอาการบาดเจ็บกลับมาสู้สภาพปกติได้เร็วกว่าถึง 80%
- กักเก็บความชุ่มชื้น: เป็นคุณสมบัติเด่นของกรดไฮยาลูโรนิค ที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้าได้ ทำให้ผิวอิ่มน้ำ นุ่มเด้ง ดูอ่อนวัย เปล่งปลั่งและสดใส
- ลดเรือนริ้วรอย: กรดไฮยาลูโรนิคจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมบริเวณผิวหน้าที่มีร่องลึก ริ้วรอย หรือชั้นผิวที่ไม่เสมอกัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณรอบดวงตา ร่องแก้ม หรือหน้าผาก ให้เต่งตึง เด้งฟู เรียบเนียน
- แก้ปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย: กรดไฮยาลูโรนิคช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ดี ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความสมดุลให้กับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี
กรดไฮยาลูโรนิค กับการเสริมความงาม
กรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์เริ่มมีการนำมาใช้ในวงการความงามเพื่อช่วยให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานสกินแคร์มากยิ่งขึ้นในการบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึง อิ่มน้ำ หน้าดูอ่อนวัย โดยจะแบ่งการใช้ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
1. นำมาเป็นส่วนผสมของสกินแคร์และเซรั่มต่าง ๆ
ทุกวันนี้มีสกินแคร์หลาย ๆ ตัวมีการนำกรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์มาเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งแต่แบรนด์ส่วนมากก็จะมีวิธีการสังเคราะห์และคุณภาพที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของเรา
วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์จากทาง Riviera Suisse ที่มีกรดไฮยาลูโรนิคเป็นส่วนผสมและมีเทคโนโลยีซึ่งได้รับการรับรองมาจากแพทย์ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มาแนะนำด้วยกัน 2 ตัว ได้แก่
Eye Gel Night เจลบำรุงและกระชับผิวรอบดวงตา ซึ่งประกอบไปด้วยไตรเปปไทด์สุดล้ำและกรดไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยเพิ่มการผลิตไฮยาลูโรแนน ช่วยลดริ้วรอยและเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจน รวมถึงกรดไฮยาลูรอนิคช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและทำให้ผิวตึงขึ้นตลอดทั้งคืน นอกจากนี้แล้ว ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ จะช่วยกระตุ้นให้มีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ แต่ครีมชนิดนี้ใช้ได้ผลดีสำหรับริ้วรอย ตีนกาที่เป็นร่องตื้น
โดยวิธีใช้นั้น ให้หมุนปลายหลอดจนเนื้อเจลออกมาใช้ ในปริมาณพอเหมาะทาบริเวณผิวรอบดวงตาในเวลากลางวันและกลางคืน เพิ่มความชุ่มชื้น ผ่อนคลาย และริ้วรอยดูจางลง ควรใช้เป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง ปิดฝาให้สนิทเพื่อรักษาประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา
Riviera Suisse Face Balm Night เป็นครีมเนื้อบาล์มที่ช่วยบำรุงผิวหน้าในเวลากลางคืน เมื่อใช้เป็นประจำ จะสามารถช่วยคงความชุ่มชื้นตลอดคืน ทำให้ริ้วรอยแลดูจางลง และผิวนุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ เกิดจากการเพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว โดย Face Balm Night เหมาะสำหรับการใช้กลางคืนก่อนนอน และมีคุณสมบัติดังนี้
- สร้างเกราะป้องกันเพื่อต่อสู้กับสภาพแวดล้อม
- ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย
- คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว
- เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวจากกรดไฮยาลูโรนิค Panthenol และ น้ำมันเมล็ด Moringa
- ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง ยกกระชับ จาก Syn®-TC
- เพิ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ลดเลือนริ้วรอยได้ภายใน 28 วัน
โดยวิธีใช้นั้น ให้หมุนฝาขวดเพื่อปลดล็อก กดฝาขวดเบาๆ ใช้เป็นประจำหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้าตอนกลางคืน ทาครีมให้ทั่วใบหน้าและคอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา
2. การฉีดกรดไฮยาลูโรนิคเข้าสู่ผิวโดยตรง ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
เป็นอีกวิธีนึงที่ได้ผลอย่างชัดเจนและเห็นผลไวเนื่องจากวิธีนี้จะเป็นการฉีดกรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์เข้าไปบนชั้นผิวหนังเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หรือแม้กระทั่งการปรับเปลี่ยนโครงหน้า เช่น เติมโหนกแก้ม เติมคางให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งสารจะสลายได้เองตามธรรมชาติโดยสารนี้จะมีอายุคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
ใช้ไฮยาลูโรนิคมากเกินไป อันตรายหรือไม่?
กรดไฮยาลูโรนิคจัดว่าค่อนข้างปลอดภัย เมื่อใช้ทาบนผิวหนังหรือฉีดเข้าร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม แต่ก็อาจจะมีผลข้างเคียงหรือมีอาการแพ้โปรตีนของแบคทีเรียที่ชื่อว่า Bacillus subtilis ซึ่งเป็นตัวที่นำมาสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิคนั่นเอง รวมถึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากอาจจะทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตเร็วขึ้นกว่าปกติ
สรุป
กรดไฮยาลูโรนิคนั้นสามารถช่วยต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื่องจากกรดไฮยาลูรอนิคสามารถกักเก็บน้ำไว้บนชั้นผิวหนังได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สกินแคร์เราก็มั่นใจได้ว่า หากมีสารประเภทนี้อยู่ แสดงว่า สกินแคร์นั้น ๆ จะช่วยบำรุงผิวพรรณของเราได้ อย่างไรก็ตามเราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองคุณภาพเป็นอย่างดี เพื่อได้ให้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและไม่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อผิวหน้าของเรา
Source: Thairath.co.th, kapook.com, drwuthailand.com