เทคโนโลยี ดูแลผิวหน้า ชั้นนำ มีอะไรบ้าง? (วิธีดูแลผิวหน้า)
ทุกวันนี้ มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหลากหลายประเภทมากที่ทั้งโดดเด่น ทั้งดึงดูดความสนใจของเรา ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก หรือว่าสเปคการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น เราจึงควรมารับฟังความคิดเห็นของแพทย์ผิวหนัง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม (aesthetician) เกี่ยวกับตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาทางผิวหนังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิวเสี้ยน ริ้วรอย และจุดด่างดำ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถใช้ได้ตลอด ไม่ว่าคุณจะพอใจกับสภาพผิวของตนเองอยู่แล้วและแค่อยากจะมีกิจวัตรประจำวันเพื่อการดูแลผิวให้ดูดีเหมือนเดิม หรือว่าคุณอาจจะต้องการซ่อมแซมสภาพผิวของตนเอง อยากให้ผิวดูดีมีออร่ามากกว่านี้ ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้เช่นกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำ เทคโนโลยี ที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลผิวหน้า ดังนี้ ***ถ้าหากว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ หรือว่าถ้าหากคุณมีโรคประจำตัว ทางเราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ใช้แสง LED และรวมถึงเทคโนโลยี microcurrent เครื่องวัดความชุ่มชื้นของผิว Fatuxz Digital Skin Detector Pen เครื่องวัดความชุ่มชื้นของผิว เป็นจุดเริ่มต้นพื้นฐานที่สำคัญมากๆ สำหรับสาวๆ ที่อยากจะดูแลผิวด้วยตนเองที่บ้าน โดย Dr. Farhaad Riyaz ได้กล่าวไว้ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยบอกเราได้ว่า ผิวของเราขาดความชุ่มชื้นหรือไม่ (ผิวขาดน้ำ) การที่เรารู้ว่า ผิวของเราขาดความชุ่มชื้นหรือไม่ สำคัญมากๆ เพราะว่าหลายๆ คนที่พยายามทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น มักจะใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเข้มข้นมากเกินไป จนทำให้สภาพผิวแย่ลงกว่าเดิม เพราะว่ากรด (acid) และส่วนผสมอื่นๆ ในครีมดูแลผิว สามารถทำให้ผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้นได้ ถ้าหากใช้ในปริมาณที่มากเกินไป โดยจะทำให้ผิวแก่ก่อนวัยอันควร วิธีใช้เครื่องวัดความชุ่มชื้นของผิวนั้นก็คือ ให้กดปลายของเครื่องวัดลงไปที่ผิวแบบเบาๆ และเครื่องนี้จะบอกเราทั้ง (1) ความชุ่มชื้นของผิว และ (2) ระดับความมันของผิว โดยเครื่องนี้จะมาพร้อมกับคู่มือ และ diagram หรือแผนภาพที่จะบอกเราได้ว่า ผิวของเราในส่วนต่างๆ ความจะมีความชุ่มชื้นและความมันอยู่ในระดับไหนบ้าง แต่ว่าโดยรวมแล้ว ระดับความชุ่มชื้นควรจะอยู่ในระดับ 35-60% และถ้าเครื่องบอกว่าความชุ่มชื้นของผิวเราน้อยกว่า 35% เราก็ควรจะเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราที่น่าจะทำให้ผิวแห้งมากเกินไป เช่น การล้างหน้าวันละ 5 รอบ หรือการอาบน้ำวันละ 5 รอบโดยไม่มีเหตุจำเป็น จะทำให้ผิวแห้งมากกว่าปกติอย่างมาก (โดยทั่วไปแล้ว เราควรอาบน้ำและล้างหน้าแค่ตอนเช้า และก่อนนอน หรือหลังจากกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากๆ เท่านั้น) นอกจากการปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันแล้ว ถ้าผิวเราแแห้งมากๆ (มีความชุ่มชื้นน้อยกว่า 35%) เราก็ควรเช็คว่า cleanser ของเรานั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้สารซัลเฟต (ควรจะมีเขียนว่า sulfate-free) และ toner ของเรานั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (ควรจะมีเขียนว่า alcohol-free) ระดับน้ำมันบนผิวของเราควรจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน (35-60%) โดยถ้าเกิดว่าเปอร์เซ็นต์ลดลงต่ำว่า 35-40% แล้วล่ะก็ เราควรจะใส่ใจผิวส่วนนั้นให้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วสภาพผิวของเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงเร็ว ซึ่งหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องวัดความชุ่มชื้นของผิวในทุกๆ วัน แต่ว่าในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น กำลังเข้าสู่หน้าหนาว หรือว่าในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของเรา เช่น…
Read More