ผู้หญิงบางคนเลือกที่จะไม่ค่อย หัวเราะเพราะกลัวเกิดริ้วรอยย่นรอบดวงตาและร่องแก้ม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การ หัวเราะทำให้อารมณ์ดีและหน้าตาสดใส และการ หัวเราะบ่อย ๆ ยังส่งผลดีต่อผิวพรรณเราอีกด้วย เพราะการ หัวเราะ นั้นมีประสิทธิภาพพอ ๆ กับการออกกำลังกาย ทันทีที่คุณ หัวเราะ กล้ามเนื้อบนใบหน้าและทั่วร่างกายจะยืดตัว ชีพจรกับความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับทุกส่วนของร่างกาย ตั้งแต่สมอง ระบบไหลเวียนเลือด ระบบย่อย ระบบภูมิคุ้มกัน หรือแม้กระทั่งผิวพรรณที่ทำให้ใบหน้าได้เคลื่อนไหว มีความยืดหยุ่น ไม่ตึงหรือเกร็ง ประกอบกับทำให้เราได้ความผ่อนคลายความเครียดด้วย ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าริ้วรอยบนผิวหน้าและตีนกาเกิดขึ้นได้อย่างไร การหัวเราะทำให้เกิดริ้วรอยได้จริงไหม และ โยคะ หัวเราะ มีประโยชน์อย่างไร
รอยย่น ริ้วรอย และตีนกาบนผิวหน้า เกิดจากอะไรบ้าง
- อายุที่มากขึ้น เมื่อเรามีอายุที่มากขึ้นส่งผลให้เซลล์แบ่งตัวได้น้อยลง จำนวนเซลล์ในชั้นหนังแท้จะเริ่มบางลง เส้นใยในผิวหนังหรือที่เรียกว่าอีลาสติน (Elastin) และคอลลาเจน (Collagen) ที่ช่วยสร้างความแข็งแรงและความเต่งตึงของผิวหนังลดลง เป็นเหตุให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย หย่อนคล้อย และกลายเป็น ตีนกา ในที่สุด
- การแสดงสีหน้าตามปกติ เช่น การยิ้ม หัวเราะ ขมวดคิ้ว ร้องไห้ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อเล็ก ๆ บริเวณหางตาเกิดการหดตัว ซึ่งสามารถกระตุ้นการเกิดรอยตีนกาได้ นอกจากนี้แล้ว การขมวดคิ้วทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้ว และมีริ้วรอยเป็นทางที่หน้าผาก หรือที่เรียกว่าหน้านิ่วคิ้วขมวดนั่นเอง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ก็ยังเป็นตัวเร่งทำให้เกิดรอย ตีนกา เร็วขึ้นอีกด้วย โดยปกติแล้ว คนเราควรนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน พฤติกรรมในการนอนหลับที่ดี จะช่วยทำให้ตีนกาไม่เด่นชัด ทำให้ใบหน้าสดใสเปล่งปลั่ง
- สูบบุหรี่ ยาเสพติด แน่นอนว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกายและจิตใจ พฤติกรรมนี้อาจจะช่วยให้เราคลายเครียดในระยะสั้น แต่ในระยะยาว อาจจะทำให้เราเครียดมากกว่าเดิม เพราะปัญหาทางสุขภาพและ ริ้วรอย ตีนกา ที่จะทำให้เราดูโทรมลง
โดยธรรมชาติแล้ว คนที่มีผิวแห้งจะมีริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวมัน เพราะว่าผิวแห้งจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยกว่า จึงสำคัญมากที่ต้องรู้ว่าตัวเองมีผิวประเภทไหนก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (คุณมีผิวประเภทไหน สามารถคลิ๊กอ่านได้ที่นี่) นอกจากผิวแห้งตามธรรมชาติแล้ว เราก็สามารถพบเจอปัญหาผิวขาดน้ำได้อีกด้วย โดยถ้าคุณต้องการฟื้นฟูผิวหน้า เปลี่ยนจากผิวโทรมเป็นผิวใสสุขภาพดี สามารถเริ่มได้จากการบำรุงผิวหน้าก่อนนอน ด้วย Face Balm Night ที่ฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว
แต่ถ้าต้องการฟื้นฟูผิวหน้าเร่งด่วนแบบ 24 ชั่วโมงไม่มีหยุด สามารถใช้ SET 24 Hours 30 ML. (Face Balm, Face Balm Night) ที่รวมถึงผลิตภัณฑ์ Face Balm SPF30 PA+++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UVA และ UVB ด้วย SPF 30 PA+++ และยังบำรุงผิวแบบครบครันเหมือนกับ Face Balm Night ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไปในตัวด้วย
เมื่อดูแลผิวหน้าแล้ว ก็ต้องดูแลสุขภาพจิตให้แจ่มใสด้วย ถึงจะพูดได้เต็มปากว่าสวยจากภายใน มาดูกันดีกว่าว่าโยคะ หัวเราะ มีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง
โยคะ หัวเราะ คืออะไร ทำให้ผิวสวยสุขภาพดีได้จริงหรือไม่
ในการฝึกโยคะหัวเราะหนึ่งครั้ง ควรใช้เวลาในการฝึก 30 – 45 นาที ในกลุ่มขนาด 5 – 15 คน (แต่เนื่องจากสถานการณ์ covid-19 แนะนำให้ฝึกโยคะหัวเราะแบบ social distancing โดยการวิดีโอคอลกับกลุ่มเพื่อนจะดีกว่า) โดยการฝึกโยคะหัวเราะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- การหายใจเข้า-ออกให้สุดปอด จะทำให้ผู้ฝึกรู้สึกสดชื่นและหายใจได้สะดวกขึ้น เพราะว่าปอดได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากกว่าการหายใจปกติ ทำให้สมองทำงานได้เต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพ
- การเปล่งเสียงหัวเราะปรบมือ และเคลื่อนไหวตามจังหวะ คือการฝึกหายใจด้วยกระบังลม ทำให้ให้หายใจได้มากขึ้น นอกจากนี้ ขั้นตอนนี้ยังกระตุ้นจุดสัมผัสของสื่อประสาทที่ปลายนิ้วมือ ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี ช่วยกระตุ้นให้สมองตื่นตัวและรู้สึกเบิกบาน สนุกสนาน
- การจินตนาการเล่นสนุกแบบเด็ก ๆ เช่น ให้จินตนาการว่า “ฉันมีความสุขที่สุดในโลก” ในส่วนนี้ สมองซีกซ้ายจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ และยังเป็นการฝึกมองโลกในแง่ดี เรียกสติ จิตวิญญาณ และปรัชญาในการใช้ชีวิตมาสู่ตัวผู้ฝึกได้อีกด้วย
หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าการหัวเราะ ร่าเริงมีประโยชน์อย่างไรต่อผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรมองข้ามประโยชน์ของการหัวเราะ เพื่อคลายเครียด เพราะประโยชน์ของการอารมณ์ดีนั้นมีมากมาย ถึงขั้นที่ศูนย์องค์รวมเพื่อการศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง หน่วยมะเร็งวิทยา (HOCC-PSU) ได้มีการพูดถึง “หัวเราะบำบัด” เป็นการบรรเทาทุกข์ และสร้างเสริมภูมิคุ้มกันที่สำคัญอย่างนึง รู้อย่างนี้แล้วจึงไม่แปลกใจที่ “หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส” เป็นคำคุ้นเคยที่เราต่างได้ยินกันอยู่บ่อยๆ