บางคน แค่ล้างหน้าด้วยสบู่ธรรมดา แต่กลับหน้าใส ไม่มีสิวสักเม็ด แต่ทำไมหลายคนที่ลองหลากหลายผลิตภัณฑ์มาแล้ว ไม่ว่าจะใช้โฟมล้างหน้าหรือป้ายครีมแต้มสิว แต่ก็ยังมีสิวโผล่ขึ้นมาบั่นทอนความมั่นใจอยู่เสมอ หนึ่งในสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง ก็คือ วิธีที่เราล้างหน้านั่นเอง การล้างหน้าที่ผิดวิธีนั้น นอกจากจะทำให้มีสิวง่ายขึ้นแล้ว จะทำให้ผิวหน้าเราบอบบางกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการแพ้ได้ง่าย รวมถึงปัญหาผิวต่าง ๆ ที่ตามมา ดังนั้น วันนี้เราจะมีดูกันว่าล้างหน้าแบบไหนผิดวิธี และทำไมถึงควรหลีกเลี่ยงวิธีการเหล่านี้
1. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
บนผิวหน้าของเรานั้นจะต้องมีน้ำมันในปริมาณที่พอเหมาะในการหล่อเลี้ยงให้ผิวมีความสมดุล และคอยปกป้องเซลล์ผิวของเรา การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นนั้นจะทำให้ผิวเราแห้งเกินไป เพราะว่าน้ำอุ่นจะล้างน้ำมันออกจากผิวเรามากเกินไป เมื่อผิวเราขาดความสมดุลแล้วจะทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้นอีก โดยแท้จริงแล้ว การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นทำให้ผิวดูผ่องใส สิวน้อยลง และผิวชุ่มชื้น น้ำเย็นทำให้รูขุมขนและหนังกำพร้ากระชับขึ้น ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำมันธรรมชาติไป ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง
2. ล้างหน้าหลังออกกำลังกายทันที
แน่นอนว่า หลังออกกำลังกาย เราอยากจะชำระล้างผิวหน้าของเราให้ปราศจากสิ่งสกปรก ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือฝุ่นต่าง ๆ ที่มาปนเปื้อนใบหน้าของเราระหว่างการออกกำลังกาย แต่การล้างหน้าหลังจากออกกำลังกายทันทีนั้นส่งผลไม่ดีต่อผิวเรา และยังเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอีกด้วย เพราะว่าร่างกายเรายังมีความร้อนสะสมจากการออกกำลังกายอยู่ และเหงื่อจะยังไม่หยุดไหลทันที การล้างหน้าทันทีจะทำให้รูขุมขนหดลงในขณะที่เหงื่อและไขมันกำลังไหลอยู่ และอาจเป็นเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้โดยเฉพาะถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาด
3. การใช้โฟมล้างหน้าที่มีเม็ดสครับหรือเม็ดบีดส์
สำหรับคนที่เป็นสิวอยู่ การที่เม็ดสครับไปเสียดสีกับผิวหน้าเรา จะไปกระตุ้นให้สิวเกิดอาการอักเสบ จนกลายเป็นสิวอักเสบได้ หรือถ้าสครับแรงเกินไปก็อาจจะเกิดอาการสิวแตก และติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณมีสิว ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ นอกจากนี้แล้ว การสครับผิวหน้าเป็นประจำอาจทำให้ผิวบาดเจ็บ ทำให้ชั้นผิวหนังบอบบางลงจนสามารถเห็นเส้นเลือดแดงได้ชัดขึ้น การดูแลผิวที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องสครับเป็นประจำ
แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับชนิดผิวของคุณจะดีกว่า เช่น Riviera Suisse Foam ที่เป็นโฟมล้างหน้าเนื้อนุ่ม ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว ให้ความชุ่มชื้นหลังจากการล้างหน้าโดยไม่ทำให้ผิวหนังแห้งตึงด้วยสาร Amisoft CS-22 เมื่อเราทำความสะอาดใบหน้าเสร็จแล้ว ก็สามารถบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลตลอดเวลาด้วย Micellar tonic ของ Riviera Suisse
4. ล้างหน้าบ่อยเกินความจำเป็น
คนที่มีผิวมันนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่น เพราะว่ามีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินความจำเป็น หลายคนอาจคิดว่าวิธีแก้ปัญหาผิวมันนั้นคือการล้างหน้าให้บ่อยขึ้น เพื่อขจัดไขมันที่เกินความจำเป็นออก แต่จริง ๆ แล้วตามวิธีการดูแลผิวมันที่ถูกต้อง เราควรล้างหน้าแค่วันละ 2 – 3 ครั้งเท่านั้น โดยวิธีการป้องกันไม่ให้ผิวมันมากไปก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นประเภทเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย เช่น โลชั่น หรือ เซรั่ม เป็นต้น เพราะโดยปกติแล้ว ผิวมันสามารถผลิตสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Sebum) ได้ดีอยู่แล้ว
5. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว
คนเรานั้นมีผิวทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวบอบบาง(แพ้ง่าย) โดยการใช้สกินแคร์ที่ผิดประเภท จะทำให้ผิวเราขาดความสมดุลจนทำให้ผิวขาดน้ำได้ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวมัน แต่หากเราเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้ นอกจากนี้ ผิวผสมที่มีทั้งบริเวณที่ผิวมัน และบริเวณที่ผิวแห้ง ก็ควรระวังไม่ให้ผลิตภัณฑ์ที่ขจัดไขมันแบบแรง (สำหรับผิวมัน) ไปโดนส่วนที่เป็นผิวแห้ง ซึ่งถ้าโดนแล้วจะแห้งเกินไป
ผลิตภัณฑ์ผิวที่ดีควรจะเหมาะกับทุกสภาพผิว เช่น Facial Foam ของรีเวียร่า สวิซ โดยโฟมตัวนี้ได้รับรางวัล The Best Cleansing Mousse จาก CLEO BEAUTY HALL OF FAME 2019 ซึ่งเป็นโฟมเนื้อนุ่ม สามารถทำความได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยนต่อผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นหลังล้างหน้าได้และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
6. ใช้ผ้าเช็ดผิวหน้า ให้หน้าแห้งไว
เราอาจจะคิดว่าผ้าที่เราใช้เช็ดหน้านั้นสะอาด แต่ถ้าเราไม่ได้ซักมันบ่อย ๆ หรือถ้าเรานำผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหน้าแล้วล่ะก็ อาจทำให้เกิดปัญหาสิวได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดตัวหรือผ้าที่เราใช้เช็ดหน้าซ้ำ ๆ ก็ตาม ความชื้นและเซลล์ของเราเองบนผ้านั้น เป็นแหล่งสะสมและแหล่งบ่มเพาะที่ดีมากสำหรับแบคทีเรีย โดยสิวนั้นสามารถเกิดจากเชื้อโรคที่มีชื่อว่า P.acnes ที่อาศัยอยู่ตามต่อมไขมัน และย่อยไขมันให้กลายเป็น free fatty acid และสารอีกหลายชนิด ซึ่งสารเหล่านี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบและกลายเป็นสิว
นอกจากแบคทีเรียแล้ว การเช็ดหน้าแรง ๆ ก็สามารถกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการอักเสบได้ จนทำให้เป็นสิว โดยถ้าผิวเป็นสิวอยู่แล้วจะตอบสนองไว ต่อการเช็ดแรง ๆ จากสิวธรรมดาอาจจะกลายเป็นสิวอักเสบ และการเช็ดแรง ๆ อาจทำให้สิวลุกลามไปบริเวณอื่นด้วย